โบรกเกอร์ AGEA สมัครฟรี พร้อมเงินเริ่มต้นฟรี $5

EXNESS สะดวกที่สุด ฝากขั้นต่ำ 10$/320บาท ผ่าน 7-11 ถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทย

2556-07-16

Broker : EXNESS

สมัครสมาชิก เปิดบัญชีซื้อ-ขาย EXNESS

>> วิธีการสมัครสมาชิิก เปิดบัญชีซื้อ-ขาย EXNESS
>> การยืนยันตน
>> การฝากเงินเข้าบัญชี
>> การถอนเงิน
>> การใช้โปรแกรมเทรด

EXNESS เป็นโบรกเกอร์ค้าการลงทุนที่ได้รับความนิยมสูง

โบรกเกอร์ EXNESS นี้เหมาะกับคนที่มีทุนน้อยเริ่มต้นเพียง 10 USD สำหรัญบัญชีประเภท MINI
และที่สำคัญ Leverage 1:1000 ครับ (ปัจจุบันสูงสุดอยู่ที่ Leverage 1:2000 แล้ว)
ปัจจุบันเวบมีภาษาไทยแล้วนะครับทำให้ง่ายมากขึ้นสำหรับท่านที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ
ฝากเงินวันนี้รับโบนัสอีก 25 % ทุกครั้งที่ฝากเงินเข้าด้วย
EXNESS คือโบรกเกอร์อีกแห่งหนึ่งที่ทำการซื้อ ขายอัตราแลกเปลื่ยนเงินตราต่างประเทศ
ในตลาด Forex ( ตลาด Forex คือ ตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุด )
EXNESS เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูง รองรับระบบธนาคารออนไลน์มากมายในการฝากเงิน - ถอนเงิน

*** EXNESS สามารถฝาก-ถอน ได้ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7 - 11 ได้ด้วย***
ฝากขั้นต่ำเพียง 10$ หรือประมาณ 320 บาท สะดวกจริงๆ

EXNESS ได้รับการก่อตั้งขึ้นปี 2008 ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย

 มีความความซื่อสัตย์ยุติธรรม การเปิดเผย โปร่งใส และยังได้รับใบรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 รวมถึงได้รับรางวัลโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2012 โบรกเกอร์ Forex ดีเด่นในรัสเซีย 2011 โบรกเกอร์ Forex มาตรฐานดีเด่นแห่งเอเชีย 2012 โบรกเกอร์ Forex ดีเด่นในรัสเซีย 2012 โบรกเกอร์ Forex ดีเด่นในตะวันออกกลาง 2012

EXNESSได้รับรางวัลจากนิตยสารWorld Financeถึง2รางวัล ได้รับรางวัลโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในตะวันออกกลางซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีการลงทุนสูงที่สุดของโลกซึ่งเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่และยังได้รับรางวัลโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในรัสเซียอีกด้วย ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่นิยมการลงทุนออนไลน์มากที่สุดในโลก นักลงทุนจากประเทศรัสเซียมีเยอะพอๆกับทวีปยุโรปเลยทีเดียว ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงเน้นย้ำว่าEXNESSได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติจากสื่อสิ่งพิมพ์ที่เชื่อถือได้มากที่สุดในโลกฉบับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงจุดยืนที่สูงสุดของเราในภาคการเงินอีกด้วย



รางวัลที่โบรกเกอร์ EXNESS ได้รับ






















ลูกค้าให้ความเชื่อมั่น ปริมาณการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์เฉลี่ยประมาณ6หมื่นล้านus dollarต่อเดือน
จากยอดการเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งผู้เปิดบัญชีและปริมาณการซื้อขาย










ระบบการฝากเงินและถอนเงินอัตโนมัติทำได้ง่ายดายและรวดเร็ว
การถอนเงินอัตโนมัติผ่านระบบการชำระเงินออนไลน์





















ถอนเงินอัตโนมัติเข้าธนาคารในไทยได้ดังต่อไปนี้













ใช้โปรแกรมเทรดหุ้นMT4 (ระบบที่มีคนนิยมใช้จำนวนมาก)


























.
.
.
.
>> วิธีการสมัครสมาชิิก เปิดบัญชีซื้อ-ขาย EXNESS
>> การยืนยันตน
>> การฝากเงินเข้าบัญชี
>> การถอนเงิน
>> การใช้โปรแกรมเทรด

2556-07-01

EURUSD Spot by Amplify Trading - 1 ก.ค. 56

EURUSD

StrategyNeutral – Entry Short
Entry1.3078
1st Target1.3034
2nd Target1.3005
Stop1.3103
Key LevelsComments
1.3184Support turned resistance
1.3103Friday high
1.3078R1, Entry
1.3034Pivot, tgt 1
1.3005Tgt 2, Support area
AlternativeNeutral – Entry Long
Entry1.3005
1st Target1.3034
2nd Target1.3070

GBPUSD
USDJPY

2556-02-06

90% คือจิตวิทยาการลงทุน อีก 10% อยู่ที่วิธีการลงทุน


 ถ้าหากว่าคุณได้มีประสบการณ์ ในการลงทุนมาสักพักหนึ่ง
   คุณอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า
   90% คือจิตวิทยาการลงทุน อีก 10% อยู่ที่วิธีการลงทุน
   เคยสงสัยไหมว่า จริงๆแล้วมันหมายความว่าอย่างไร…
   แล้วเราจะมีวิธีการเรียนรู้ ในการที่จะเล่นเกมนี้อย่างไร?
   ในการที่จะประสบความสำเร็จในการเก็งกำไรหรือจากการลงทุนของคุณ
   และนี่คือสิ่งที่เราจะมาหาคำตอบกัน
   วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องของ “จิตวิทยาการลงทุน” กันค่ะ
   ในตลาดหุ้นนั้นมีทางอยู่สองหนทาง ที่ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวไปได้
   นั่นคือ “ขึ้น” หรือ “ลง” เท่านั้นค่ะ
   แล้วอะไรล่ะ! คือสิ่งที่แยกนักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จออกจากนักเล่นหุ้นที่ล้มเหลว?
   ผู้เชียวชาญบอกกับเราว่า..มันคือมุมมอง ที่คุณมีต่อเกมนี้ค่ะ!
   ในเกมการลงทุนนั้น.. มันเป็นเกมระหว่างคุณ กับนักลงทุนคนอื่นๆ
   และ.. บ่อยครั้งมากๆที่….
   ราคาของหุ้นนั้น จะแยกตัวไปคนละทางกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานของมัน
   โดยที่มันถูกขับเคลื่อนไปด้วยอารมณ์ของฝูงชน
   และคุณควรจะตระหนัก หรือรับรู้ไว้ว่า..นี่คือแรงขับเคลื่อนของตลาดหุ้นที่แท้จริงครับ
   ศาสตราจารย์ Werner Debontแห่งมหาวิทยาลัย DEPAUL
   คือหนึ่งในผู้บุกเบิกความรู้ในสาขาของ “Behavior Finance”
   ซึ่งทำการศึกษาเกี่ยวกับว่า อารมณ์ของเรานั้นจะมีผลกระทบ ต่อการตัดสินใจในการลงทุนอย่างไร
   เขาได้กล่าวว่า.. เหตุผลหลักข้อหนึ่ง
   ว่าทำไมนักเล่นหุ้นส่วนใหญ่นั้น..
   จึงมักพบว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกินในการที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น
   นั่นก็เพราะว่า…
   “พวกเขาเชื่อว่า การเคลื่อนไหวของราคามีรูปแบบของมัน
   จนเกินกว่าความเป็นจริงครับ”
   พูดอีกอย่างก็คือ..
   พวกเขามักคิดไปว่า ราคาหุ้นควรจะเป็นอย่างไร
   ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว
   คุณไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอนเลยว่า
   พรุ่งนี้.. จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง!
   “ในการที่จะประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นนั้น..
   คุณต้องทำสิ่งที่ตรงข้าม กับสัญชาติญาณของมนุษย์ครับ”
   Larry Levin คือนักเก็งกำไรที่มีประสบการณ์มามากกว่า 20 ในตลาด
   ได้บอกกับเราว่า..ความลับในการที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นนั้น
   คือการที่คุณต้องเปลี่ยนวิธีคิดของคุณ
   และเชื่อจริงๆว่า..
   คุณไม่มีวันรู้.. ว่าตลาดจะวิ่งไปทางไหนค่ะ
   “สำหรับคนส่วนใหญ่นั้น
   เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จแล้วในเรื่องต่างๆ
   พวกเขามักเชื่อว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้เช่นกัน
   แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
   ความจริงแล้ว ผมมักพบว่า
   คนที่ฉลาดมากๆส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นคนสุดท้าย ที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น
   เพราะพวกเขามักรู้สึกว่า พวกเขาสามารถที่จะ..
   รู้ได้ว่า ตลาดจะเป็นอย่างไร!
   แต่โดยส่วนใหญ่ หรือโดยเฉลี่ยแล้ว…
   มันมักจะไม่ได้เป็นไปอย่างนั้น
   ตลาดไม่อนุญาตให้คุณรู้ดีไปกว่ามันได้หรอก
   คุณต้องกลับมาตระหนักให้ดีว่า..
   คุณไม่สามารถไปบังคับอะไรมันได้
   ดังนั้น คุณจึงควรกลับมาบังคับตัวคุณแทน”
   แน่นอนว่า.. เขาได้เรียนรู้มันมาอย่างเจ็บปวดค่ะ
   “ผมเคยเจ๊งขาดทุนย่อยยับมาแล้วครับ
   ภายในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้นเองครับ!
   ในช่วงประมาณปี..
   ในช่วงต้นๆปี 1990 ครับ!”
   และมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย.. จน Levin ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาครั้งใหญ่
   หลังจากนั้น เขาจึงเริ่มกลับมาทำเงินได้อีกครั้งค่ะ
   “ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานี้
   ผมสามารถที่จะทำกำไรได้เกือบ 2 ล้านดอลลาร์แล้ว..
   จากการเก็งกำไรในตลาด S&P ครับ”
   “ซึ่งผมก็ได้นำผลการลงทุนของผม
   ไปเผยแพร่ในเวบไซต์ เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาไว้แล้วครับ”
   มันคือเวบไซต์www.secretsoftraders.com ค่ะ
   แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้นะคะ
   ในตอนต่อไปนั้น Larry Levinจะมาบอกถึงความลับของเขา
   ว่าเขากลับมาทำกำไรได้อย่างไร
   และเราจะมาเล่าสู่กันฟัง ถึงเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ
   เกี่ยวกับเรื่องของ “จิตวิทยาการลงทุน” กันให้มากกว่านี้ค่ะ
   และนั่นคือสิ่งที่จะอยู่ในตอนต่อไปค่ะ

ที่มา : mangmaoclub.com

2555-12-08

กุญแจ 4 ดอกสำหรับนักเก็งกำไร

1. รักษาเงินต้น
ควรรู้จักรักษาเงินต้น ถนอมกระสุน เสี่ยงแบบจำกัด ถ้าจะให้ดีใช้กฎ 2% Rule ของเงินต้น เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้ง เพื่อให้เรายืนอยู่ในตลาดได้ในระยะยาว

2. มีระบบ
เทรดเป็นระบบ เข้าออกตามสัญญาณ ผิดทางตัดขาดทุน เมื่อมีกำไรก็ Let's Profit Run

3. มีวินัย
ยึดมั่นตามแผนตามระบบเทรด เพื่อเอาชนะจิตใจไม่ให้หวั่นไหวไปตามสภาวะตลาด,ตามข่าว หรือตามมวลชน จงอย่าใช้อารมณ์นำความคิดในการตัดสินใจ

4. อ่อนน้อมถ่อมตน
จงอย่าคิดว่าตัวเองฉลาด เก่งกว่าคนอื่น หมั่นเรียนรู้จากความผิดพลาด ทำตัวให้เหมือนแก้วที่พร่องน้ำ พร้อมรับความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา อย่าปิดกั้นตัวเองกับความเชื่อหรือความคิดแบบเดิมๆ มีโอกาสควรเสวนากับผู้รู้จริง อ่านหนังสือหรือบทความ เพื่ออัพเดทมุมมองและเทคนิคใหม่ๆ

กุญแจ 4 ดอกนี้เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ครอบคลุมทั้งเรื่อง กลยุทธ การบริหารเงิน และจิตวิทยาการลงทุน ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่รับรองว่าถ้าปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง อนาคตรับรองว่าท่านจะเอาตัวรอด อยู่ทำกำไรในตลาดหุ้นได้นาน พอร์ตเติบโตไม่ล้มหายตายจาก หรือเน่าตายบนยอดดอยไปเสียก่อน

ที่มา : http://www.cway-investment.com

2555-05-27

The 10 Commandments ของการลงทุน by ลุงโฉลก

วันนี้ลุงโฉลกจะนำเสนอ The 10 Commandments ของการลงทุน
ที่นักลงทุนทั่วๆไปให้ความเห็นชอบ และถือเป็นหลักในการลงทุนในขณะนี้

‎1. อย่าลงทุนในตลาดที่ตัวเองไม่มีความรู้ 
แต่ละตลาด แต่ละหุ้น แต่ละ Commodity แต่ละสัญญา ฯลฯ มีลักษณะต่างกัน บางตลาดมี Wave 3 เป็น Wave ที่ใหญ่ที่สุด บางตลาดมี Wave 5 เป็น Wave ที่ใหญ่กว่า Wave 3 บางตลาดมี Seasonal pattern และบางตลาดมี financial pattern นักลงทุนควรมีความรู้ทางด้าน Fundamental ในเรื่องเหล่านี้ด้วย แต่ไม่ใช่ Fundamental จนถึงขนาดที่จะต้องเข้าไปเรียนรู้สภาพทางการเงิน ฯลฯ นักลงทุนที่ลงทุนอยู่ในตลาดยางพารา ไม่ควรกระโดดเข้าตลาด Forex ทันที เพราะแต่ละตลาดมีลักษณะไม่เหมือนกัน กฏเกณฑ์ไม่เหมือนกัน Margins ไม่เท่ากัน ฯลฯ การลงทุน ควรลงทุนอย่างมีความสุข ไม่ใช่เสี่ยงไปเรื่อยๆในตลาดที่ตัวเองไม่มีความชำนาญ ถ้าไม่มีความรู้ความชำนาญเพียงพอ อาจจะดีกว่าที่จะให้ Fund managers เป็นผู้ลงทุนให้

2. อย่าลงทุนตามคำแนะนำว่าเป็นข้อมูลลับ รู้เฉพาะกลุ่ม
นักลงทุนที่ลงทุนมาทั้งชีวิต เป็นเวลาหลายสิบปี ต่างก็มีประสบการณ์เดียวกัน คือไม่เคยรู้ Inside information จริงๆสักครั้งหนึ่ง ที่เพียงพอที่จะทำกำไรได้มากมาย เหตุผลก็คือ ข้อมูลอย่างนั้นไม่มีในโลก ถ้ามี ก็เป็นสิ่งผิดกฏหมาย และถ้ามีจริง ก็ไม่มีใครบอกคนอื่น ข้อมูลบางประการที่อาจจะรู้ได้ก่อนตลาดเล็กน้อย ก็แสดงออกในรูปของการเปลี่ยนแปลงใน Chart pattern แล้ว ดังนั้น อย่าเชื่อ เมื่อมีใครบอกว่ามีข้อมูลทีเด็ด ให้ซื้อหุ้นตัวนั้น ตัวนี้ ฯลฯ หลอกกันทั้งนั้นครับ แต่ถ้าไม่ใช่ข้อมูลลับ แต่เป็น ข่าวลือ ที่ลือกัน หึ่ง ในตลาด ข้อนี้เอามาใช้ได้ครับ ตลาดมักจะขึ้นเมื่อมีข่าวลือ และเมื่อข่าวลือ Confirm แล้ว ตลาดก็จะตก โดยทั่วๆไป ข่าวลือ มักไม่มีประโยชน์จริงจังในการตัดสินใจ

3. ใช้คำสั่งที่ ธรรมดา ที่สุด
คำสั่งซื้อขายที่ธรรมดาที่สุดคือ Market order อย่าเสียเวลาพยายามซื้อที่ราคาถูกกว่าราคาตลาดเล็กน้อย หรือขายที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อย ถ้าสามารถซื้อได้ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดเล็กน้อย ก็แปลว่าตลาดกำลังลง ซื้อไปก็ขาดทุน หรือเมื่อขายได้ที่ราคาสูงกว่าตลาดเล็กน้อย ก็แปลว่าตลาดกำลังขึ้น กำลัง ขายหมู ดังนั้น คำสั่ง Limit จึงมีแต่ความผิดหวัง ถ้าซื้อตามคำสั่งไม่ได้ก็ผิดหวัง ถ้าซื้อได้ตลาดก็กำลังลง ฯลฯ พยายามใช้คำสั่งที่ง่ายที่สุด คือ at market แล้วเอาเวลา (ที่จะลุ้นเพื่อผิดหวัง) ไปพิจารณาเรื่องอื่นที่เป็นประโยชน์ดีกว่า

4. อย่าเปลี่ยนสูตรกลางการลงทุน
อย่าเปลี่ยนม้ากลางศึก เมื่อลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง โดยวางแผนจะใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง ให้พิจารณาให้ดีก่อนเริ่มลงทุน เมื่อมี Position แล้ว อย่าเปลี่ยนวิธีการลงทุน อย่าเปลี่ยนสูตร ใช้วิธีที่พิจารณาแล้วนั้น ทำต่อไปจนจบการลงทุนในครั้งนั้นๆ ถ้าจะเปลี่ยนสูตร หรือเปลี่ยนวิธี ฯลฯ ก็พิจารณาแล้วใช้ในการลงทุนครั้งต่อไป เมื่อนักลงทุนอยู่ไกล้ตลาดเกินไป คือดูราคาบ่อยๆระหว่างวัน การเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของราคา ก็อาจจะทำให้จิตหวั่นไหว และเปลี่ยนแผนการลงทุนในท่ามกลางอย่างไม่มีเหตุผล ผลก็คือการขาดทุน

5. อย่าคันมือ
ถ้ายังไม่สามารถหาจุดเข้า ซื้อ/ขาย ตามทฤษฎีได้ เป็นเวลาที่ต้องอยู่เฉยๆ ไม่ลงทุน เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่สุดของนักลงทุน คือซื้อเป็น ขายเป็น แต่อยู่เฉยๆไม่เป็น นักลงทุนต้องฝึกฝนให้ตัวเองเป็นผู้มี ระเบียบ ในการลงทุนตาม ระบบ ถ้ามีเหตุอันใดก็ตามที่ทำให้ ตกรถ ก็ต้องยอมรับการ ตกรถ อย่าฝืนกฏกระโดดขึ้นรถที่ออกวิ่งแล้ว จะตกลงมาบาดเจ็บเปล่าๆ อย่ากังวลว่าจะไม่ได้ Trade โอกาสจะย้อนมาใหม่อีกเสมอ ในทำนองเดียวกัน เมื่อเข้า ซื้อ/ขาย มี Positions แล้ว ถ้าผิดทาง หรือถ้าตลาดไม่ Move ในทิศทางที่เราคาดหมาย ก็อย่าทนดื้อด้านอยู่ด้วยความหวังลมๆแล้งๆ กำหนด Stop loss ให้ Sensitive ถ้าตลาดไม่เคลื่อไปในทิศทางที่เราคาดหมายภายใน 2-3 วัน ออกไปหาตลาดอื่นดีกว่า

6. พิจารณาตลาดอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
ไม่มีตลาดใดตลาดหนึ่งที่เป็นเอกเทศ ทุกตลาดจะมีความสัมพันธ์กับบางตลาดเสมอ เช่น TFEX จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ SET Index และมีความสัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ยางพาราที่ AFET มีความสัมพันธ์โดยตรงกับตลาดยางพาราที่ TOCOM และตลาดการผลิตรถยนตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่ ฯลฯ บ่อยครั้งที่มีสัญญาณจากตลาดอื่น เกิดขึ้นก่อนสัญญาณ ซื้อ/ขาย ในตลาดที่เรากำลังลงทุนอยู่ สภาพดินฟ้าอากาศและการทำนายสภาวะอากาศล่วงหน้า มีผลอย่างมากต่อราคาของตลาด Corn ใน Futures market นักลงทุนไม่ควรพิจารณา Technical aspect ของสินค้าตัวใดตัวหนึ่งโดยลำพัง ควรพิจารณาตลาดอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย

7. ให้ความสำคัญต่อ Open Interest ในการ Trade Options
ถ้านักลงทุนจะลงทุนในตลาด Options ที่กำลังจะเปิดในประเทศของเราเร็วๆนี้ สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาคือ จำนวน Open Interest ใน Option นั้นๆ ที่ Strike price นั้นๆ ที่ Expiry date นั้นๆ เพราะถ้าตลาดมี Open Interest น้อย ราคา Bid และ Offer ก็จะต่างกันมาก และเมื่อเปิดหลายๆ Positions แล้ว ก็อาจจะ Close positions ก่อนถึง Expiry date ไม่ได้ ใน Complex option trading เช่นการใช้ Surrogate Covered Call Write โดยใช้ Option ชนิด LEAPS (Long-Term Equity AnticiPation Securities) แทนการถือ Long positions ฯลฯ เทคนิคเหล่านี้ ถึงแม้จะเป็นการลดความเสี่ยง แต่ก็ต้องเปิดหลาย Positions ในตลาดที่มี Open interest น้อย จะทำให้เกิด Slippage คือ ซื้อ/ขาย ที่ราคา Market ไม่ได้ และอาจจะทำให้ระบบเหล่านั้นไม่ทำงานตามที่วางแผนการลงทุนเอาไว้

8. รู้จักขอบเขตุความสามารถของตัวเอง
นักลงทุนสามารถเลือกตลาดที่จะลงทุนได้ สามารถเลือกชนิดของคำสั่งในตลาดได้ สามารถเลือกเวลาที่จะเข้า ซื้อ/ขาย ได้ สามารถกำหนดจำนวนสัญญาที่จะลงทุนได้ และสามารถกำหนดการ Stop loss หรือ Liquidate หรือ Cover หรือ Take profit ได้ แต่นักลงทุนไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดได้ ตลาดมักจะสร้าง Pattern แปลกๆ ที่เราไม่คาดคิดเสมอ การรู้ขอบเขตุความสามารถของตัวเอง ว่าเราไม่สามารถควบคุมตลาดได้ ไม่มีใครรู้อนาคต เป็นความจริงที่นักลงทุนจะต้องระลึกไว้เสมอ

9. รอสัญญาณก่อนเข้าตลาด
บ่อยครั้งที่นักลงทุนสามารถมองเห็น Pattern ได้ก่อน และสามารถรู้ล่วงหน้าว่าตลาดจะไปทางไหน นักลงทุนมักจะเข้า ซื้อ/ขาย ทันที ซึ่งเป็นข้อผิดพลาด เพราะตลาดมักจะแปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่เราไม่คาดหวังได้ง่ายๆ การลงทุนที่ดีกว่า คือการรอให้เกิด สัญญาณ ซื้อหรือขายเสียก่อน คือให้ตลาด Confirm การคาดหวังของเราเสียก่อน แล้วค่อยเข้าไป ซื้อ/ขาย ตามสัญญาณนั้นๆ เราไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อได้ที่ Low หรือขายได้ที่ High แต่เราจำเป็นที่จะต้องเห็นราคาสูงขึ้นหลังจากซื้อ และต่ำลงหลังจากขาย

10. อย่าลงทุนเกินจำนวนเงินที่สามารถเสี่ยงได้
ในตลาด Futures เมื่อราคาเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการคาดหมายของเรา ตลาดจะมี Margin Call ที่นักลงทุนจะต้องจ่ายทันที หรือโดน Force liquidation ดังนั้น การลงทุนจึงต้องเผื่อเงินเอาไว้ให้เพียงพอต่อ Margin call และเพียงพอต่อการลงทุนรอบต่อไป ถ้ารอบแรกๆขาดทุน โดยปรกติ ลุงโฉลกจะตั้งกฏเอาไว้ให้ใช้เงิน 6 เท่าของ Total margin requirement สำหรับการลงทุนในปีแรก และลดลงเหลือ 4 เท่าในปีต่อๆไป

ที่มา : http://www.chaloke.com/
^__^

2555-05-24

ข่าว EU ท่ามกลางความผันผวนของตลาด



อ่านข่าวยุโรปแบบละเอียด แล้วยิ่งน่ากลัว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ develop จนสุกงอม คือรอวันระเบิด เช่นหนี้อสังหาของสเปน ... ที่น่ากลัวกว่าคือ โดยรวมแล้วมันเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศซะมาก จึงตกลงกันด้วยเหตุผลในเชิงวินัยการเงินไม่ได้เร็วนัก

ซึ่งสุดท้ายมันอาจจะตกลงกันได้แบบเบ็ดเสร็จ หุ้นวิ่งขึ้นกระจัดกระจายก็ได้ แต่ระหว่างทาง ผันผวนหนักแน่นอน เพราะอ่านข่าวแล้ว "ตัวใหญ่ๆ" ของยุโรปเอง ไม่ว่าจะเป็น ประธานธนาคารกลาง หรือ ผู้นำประเทศ ก็ยังไม่ีใครฟันธงได้ชัดๆ ว่า 1. กรีซจะออกหรือไม่ และ 2. ถ้าออก หรือ ไม่ออก แล้วจะส่งผลยังไง

อย่างไรก็ดี ภาพรวมคร่าวๆ ตอนนี้ ที่เก็บได้จากข่าว คือ

1. เงินฝากทยอยไหลออกจากประเทศในกลุ่ม PIIGS (Portugal, Ireland, Italy, Greece และ Spain) มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะคนฝากเงินก็อยากลดความเสี่ยงในการถือครองสินทรัพย์ (เงินฝาก) ในประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการเงิน โดยยอดเงินฝากรวม ของประเทศในกลุ่ม PIIGS นี้ ลดลง 3.2% ตั้งแต่ปลายปี 2010

2. เฉพาะกรีซอย่างเดียว จนถึง มีนาึึคม 2012 เงินฝากไหลออกไปแล้ว $96 พันล้านเหรียญ หรือ 32% ของยอด $301 พันล้าน ณ ปี 2009

3. ถ้ากรีซออกจากเงินสกุลยูโรจริง ค่าเงิน "อาจ" ด้อยค่าลง 75% (นึกถึงตอนที่เงินบาทด้อยค่าลงจาก 25 บาท/USD ไปอยู่ 5x บาท/USD) ก็เพราะค่าเงินจะวิ่งไปสู่พื้นฐานที่แท้จริงของประเทศ ซึ่งไม่ได้ถูกพยุงไว้โดยความเป็นสมาชิกสกุลเงินยูโรอีกต่อไป ... ลูกหนี้ชาวกรีซที่กู้เงินเป็นสกุลยูโร (รวมถึงรัฐบาลที่ขายพันธบัตรด้วย) ก็จะหมดปัญญาใช้หนี้ เมื่อลูกหนี้ตาย เจ้าหนี้ก็เจ๊งตาม (ส่วนใหญ่เป็นแบงก์ในยุโรปด้วยกัน)

4. เมื่อมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่าเจ้าหนี้จะเจ๊ง (แบงก์ล้ม) คนฝากเงินก็ยิ่งกลัว ก็จะเร่งถอนเงิน จนแบงก์เจ๊งเร็วขึ้น

5. ทางด้านสเปน เกิดความกลัวเรื่องหนี้อสังหาขึ้นมา (คล้ายกับวิกฤติต้มยำกุ้ง) คือลูกหนี้เริ่มหมดปัญญาจ่ายคืน จนหนี้เสียของระบบแบงก์สเปนพุ่งขึ้นเป็น 8.37% ในเดือนมีนาึคม 2012 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับแต่ปี 1994

6. Rating Agency จึงพากัน Downgrade อันดับความน่าเชื่อถือของแบงก์สเปนกันขนาดใหญ่ ด้วยเหตุผลว่า "เศรษฐกิจทรุดตัวลง เจ้าหนี้ขาดสภาพคล่อง และสินเชื่อด้อยคุณภาพลง"

แต่จะอย่างไร Price Action ของราคาหุ้นก็เป็นตัวสะท้อนข้อมูลทั้งหมดที่นักลงทุน "ทั้งหลาย" มี ... ส่วนตัวจึงขอเน้นความสมดุลระหว่าง การติดตามต้นข่าวจากสื่อต่างๆ ("ตามดูที่เหตุ" ซึ่งเปลี่ยนเร็วและคาดเดายากจริงๆ) และการพิจารณาลักษณะของแนวโน้มราคา ("ตามดูที่ผล") ในกรอบเวลาระยะที่ยาวขึ้น ... ไปพร้อมกัน

หากท่านใดมีความเห็นหรือข้อแนะนำในเชิงสร้างสรรค์ เชิญแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ :)

-------------------

หมายเหตุ:

• ข่าวที่อ่าน
1) European Banks Unprepared For Greek Exit From Euro ณ วันที่ 22 พ.ค. 55 (http://bloom.bg/JXu0Wr)
2) EU Chiefs Clash On Euro Bonds As Crisis Summit Bogs Down วันที่ ณ 23 พ.ค. 55(http://bloom.bg/JXub42)

• หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อข่าวหรือที่มาของตัวเลข โปรดติดต่อไปที่ bloomberg ได้โดยตรง เขามี Email ของผู้เขียน ระบุไว้ที่ท้ายข่าวครับ

• ภาพเหรียญ 1 ยูโร จาก wikipedia.org

• ข้อมูลทุกข้อเป็นข้อเท็จจริงซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ยกเว้นข้อ 3 ที่เป็นการคาดการณ์ (ส่วนข้อ 4 ก็จริงแน่นอน ถ้าข้อ 3 เกิดขึ้น)

2555-04-30

Marketiva เปลี่่ยนชื่อเป็น AGEA

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555) เข้าโปรแกรม Marketiva แล้วมันเกิดข้อผิดพลาดแล้วให้โหลดและอัพเดทโปรแกรมใหม่ พออัพเดทหน้าตาคล้ายๆ เดิม แต่ชื่อได้เปลี่ยนไปเป็น AGEA ตอนแรกตกใจอยู่เหมือนกัน ลองคลิกดูตามส่วนต่างๆ ก็ยังคงเหมือนๆ เดิม ฝาก/ถอนเงินก็ยังสามารถใช้ Liberty Reserve ได้เช่นเดิม ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอตรวจสอบก่อนนะครับ ว่ามาการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างแล้วจะมาแจ้งให้ทราบ

ปล.ที่แน่ๆ ค่า spread ของทองคำ ลดลงจาก 80 เหลือแค่ 55 ถือว่าถูกใจมาก ^__^


เผื่อจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนเก่าและใหม่
Marketiva เปลี่่ยนชื่อเป็น AGEA
ท่านใดที่เป็นสมาชิกmarketivaอยู่แล้วก่อนหน้านี้ท่านสามารถ ดาวโหลดโปรแกรมซื้อขายหุ้นตามที่marketivaแจ้งแล้วใช้รหัสผ่านและuserเดิมล็อกอินเข้าไปได้เหมือนเดิมทุกอย่างครับ


1.ทำการล็อกอินเข้าmarketivaตามปกติ หลังจากนั้นจะมีข้อความแจ้งเตือนปรากฎขึ้นมา คลิ๊กลิ้งตามที่marketivaแจ้ง download AGEA streamster



2.โปรแกรมซื้อขายหุ้นจะถูกดาวโหลดมาที่เครื่องของท่าน



3.หลังจากที่โปรแกรมถูกดาวโหลดเสร็จแล้ว ให้ท่านคลิ๊กคำว่าRUN



4.คลิ๊กNEXTไปเรื่อยๆ



5.ติ๊กเครื่องหมายถูกทีช่อง จากนั้นคลิ๊กNEXT



6.คลิ๊กNEXT



7.คลิ๊กfinish



8.จะมีไอคอนAGEAปรากฎบริเวณหน้าจอของท่าน ให้ท่านดับเบิลคลิ๊กบริเวณไอคอนดังกล่าว



9.กรอกuser nameและรหัสผ่านอันเก่าของท่านที่ใช้กับmarketivaทำการล๊อกอิน sign in



10.เข้าใช้งานได้ตามปกติ



Refer:
http://www.fx.tradefast.biz/viewtopic.php?f=2&t=534

spread ของทองลดลงจาก 80 เหลือ 55 เลยถือว่าดีมากๆ ครับ ^^
การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตรวจสอบแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ


แนะนำโบรกเกอร์:
โบรกเกอร์ ฝากขั้นต่ำ เทรดขั้นต่ำ อื่นๆ
Marketiva $1 $0.01 สมัครใหม่รับฟรี $5
FxOpen $1 0.1 Lot จุดละ $0.01 (Micro) สะดวก ฝาก/ถอน ผ่าน ธ.กรุงเทพ
LiteForex$1 0.1 Lot -